จากจำนวนผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าที่มีเยอะขึ้นและมีแนวโน้มความต้องการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้น ทำให้หลายๆ Developer เริ่มมีเทคโนโลยีภายในบ้านที่อำนวยความสะดวกและดึงดูดความสนใจ อย่างเครื่องชาร์ท EV Charger หรือ บล็อกไฟสำหรับ EV Charger วันนี้เราจะพามาดูข้อมูลของระบบบล็อกไฟเครื่องชาร์ทรถยนต์และวิธีการตรวจสอบเบื้องต้นให้กับทุกท่านค่ะ
สิ่งที่ต้องรู้เกี่ยวกับบล็อกไฟสำหรับ EV Charger
ภายในบล็อกไฟ จะประกอบไปด้วยสายไฟ 5 เส้น ได้แก่ สายไลน์ 3 เส้น (น้ำตาล ดำ เทา ตามลำดับ) สายนิวทรัล (สีฟ้า) และสายกราวน์ (สีเขียวแถบเหลือง) อ่านเกี่ยวกับสีของสายไฟเพิ่มเติม ได้ที่ สีสายไฟ
ในการจะติดตั้ง EV Charger มีสิ่งที่ควรรู้ดังนี้
1. ควรเลือกมิเตอร์ไฟฟ้าที่มีพิกัดกระแสที่เหมาะสม ให้รองรับกับรถยนต์ไฟฟ้า (ซึ่งมิเตอร์ไฟฟ้ามี 2 ประเภท อ่านเพิ่มเติมได้ที่ ความแตกต่างระหว่างมิเตอร์ปกติกับมิเตอร์ TOU) โดยรถยนต์ไฟฟ้า จะใช้กระแสไฟฟ้าขณะชาร์จประมาณ 8A ถึง 16A ต่อเนื่องจนกว่าแบตเตอรี่จะเต็ม ดังนั้นมิเตอร์ไฟฟ้าควรมีขนาดไม่น้อยกว่า 30 A หรือเปลี่ยนขนาดมิเตอร์ใหญ่ขึ้นเป็น 30(100) A ระบบไฟ 1 เฟสหรือ 3 เฟส ก็ได้ เพื่อป้องกันการใช้ไฟฟ้าจนเกิดพิกัด
2. ขนาดสายเมน และเมนเบรกเกอร์ สำหรับสายเมนควรปรับให้สอดคล้องกับขนาดของเมนเบรกเกอร์ และเมนเบรกเกอร์ ควรปรับให้สอดคล้องกับโหลดไฟฟ้าทั้งหมดภายในตู้ ซึ่งรวมกับโหลด EV Charger ด้วย โดยจะมีหลักการเลือกขนาดสายไฟให้เหมาะสมกับขนาดของเบรกเกอร์ สายไฟของวงจรย่อยที่จ่ายไฟให้เครื่องอัดประจุไฟฟ้าต้องมีขนาดพิกัดกระแสไม่ต่ำกว่า 1.25 เท่าของกระแสด้านเข้าของเครื่องอัดประจุไฟฟ้าและต้องไม่ต่ำกว่าค่าพิกัดกระแสของเครื่องป้องกันกระแสเกิน
3. ต้องมีระบบป้องกันอันตรายต่อบุคคล ได้แก่ สายดินและเครื่องตัดไฟรั่ว (RCD) ชนิด Type B พิกัดกระแส In น้อยกว่า 30 mA และต้องมีพิกัดไม่น้อยกว่าพิกัดป้องกันกระแสเกิน ต้องติดตั้งเบรกเกอร์แยกสำหรับ EV Charger โดยแยกใช้งานกับเครื่องไฟฟ้าอื่นๆ และควรใช้เบรกเกอร์กันดูดที่มีระบบตัดไฟรั่ว
4. โดยตามมาตรฐานการติดตั้งทางไฟฟ้าสำหรับประเทศไทย (วสท.) ระบุไว้ว่า สามารถติดตั้งตู้ไฟฟ้าสำหรับ EV Charger แยกจากตู้ไฟฟ้าหลักภายในบ้านได้

ก่อนติดตั้ง EV Charger ควรรู้อะไรบ้าง?
ก่อนจะติดตั้งเครื่องชาร์ทรถยนต์ไฟฟ้าเราต้องทราบข้อกำหนดทั่วไปในการติดตั้งโดย
- ต้องมีระบบป้องกันอันตรายต่อบุคคล ได้แก่ สายดินและเครื่องตัดไฟรั่ว (RCD) ชนิด Type B พิกัดกระแส In น้อยกว่า 30 mA และต้องมีพิกัดไม่น้อยกว่าพิกัดป้องกันกระแสเกิน
- สายไฟของวงจรย่อยที่จ่ายไฟให้เครื่องอัดประจุไฟฟ้าต้องมีขนาดพิกัดกระแสไม่ต่ำกว่า 1.25 เท่าของกระแสด้านเข้าของเครื่องอัดประจุไฟฟ้าและต้องไม่ต่ำกว่าค่าพิกัดกระแสของเครื่องป้องกันกระแสเกิน
มาตรฐานการติดตั้ง
- ขนาดมิเตอร์ที่เลือกใช้ ควรติดตั้งมิเตอร์ที่สามารถรองรับโหลดรวมของที่พักอาศัยและ EV Charger ได้เหมาะสม
- เบรกเกอร์ที่ใช้งาน ต้องติดตั้งเบรกเกอร์แยกการใช้งาน ตามมาตรฐานสำหรับที่พักอาศัยเป็นแบบ MCB ป้องกันกระแสเกินและกระแสลัดวงจรหรือ RCD อุปกรณ์ป้องกันไฟรั่วแบบ RCCB และ RCBO
- การเลือกสายไฟควรเลือกขนาดให้เหมาะสม เลือกสายไฟขนาด 6 sq.mm. สำหรับเบรกเกอร์ขนาด 32 A หรือสายไฟขนาด 10 sq.mm. สำหรับเบรกเกอร์ขนาด 40 A เพื่อความปลอดภัยควรเผื่อสเปคไว้ด้วย
การเตรียมพร้อมก่อนติดตั้ง EV Charger
- แนะนำขนาดมิเตอร์ที่เหมาะสมในการติด EV Charger ดังนี้ ระบบไฟ 1 เฟส ใช้มิเตอร์ขนาด 30(100) A ขึ้นไป และระบบไฟ 3 เฟส ให้ใช้มิเตอร์ 30(100) A
- เช็กขนาดสายไฟเมน เป็นสายที่เดินจากมิเตอร์ไฟฟ้าเข้ามาที่แผงเมนสวิตช์ ใช้ขนาด 2.5 sq.mm. เช็กตู้ MCB ควรใช้ตู้ที่สามารถรองรับกระแสไฟได้สูงสุดไม่เกิน 100 A
- ติดตั้ง RCD ตามมาตรฐานต้องมีพิกัดขนาดกระแสไฟฟ้ารั่วไม่เกิน 30 mA ต้องตัดกระแสไฟรั่วภายในระยะเวลา 0.04 วินาที เมื่อมีไฟรั่วขนาด 5 เท่าของพิกัด (150 mA)
- โดยทั่วไปจะมีขนาดตั้งแต่ 3.6 kW - 22 kW ขึ้นอยู่กับรถยนต์แต่ละรุ่น มีผลกับระยะเวลาในการชาร์จ หากมีค่ามากก็จะใช้เวลาในการชาร์จน้อยลง เมื่อทราบค่าการรับไฟของ On Board Charger ควรเลือกติด EV Charger ที่มีกำลังไฟที่ใกล้เคียงกัน
- ปัจจุบันมีหัวชาร์จรถไฟฟ้าหลายแบบ จึงต้องเลือกเครื่องที่มีหัวชาร์จที่เหมาะสมกับรถยนต์ไฟฟ้า ทั่วไปในไทยจะรองรับหัวชาร์จอยู่ 2 ประเภท คือ แบบ AC (Type 1 และ Type 2) และแบบ DC (CCS และ G/BT)
- จุดที่จะติดตั้งที่ชาร์จไม่ควรอยู่ห่างจากที่จอดรถเกิน 5 เมตร เนื่องจากสายชาร์จโดยทั่วไปมีความยาวประมาณ 5-7 เมตร และ EV Charger ควรอยู่ใกล้กับตู้ควบคุมระบบไฟฟ้าหลักของบ้านและควรมีการติดตั้งอุปกรณ์ตัดไฟรั่วและสายดินของ EV Charger แยกกับสายดินหลักของบ้าน
[Review] EV Charger ABB Terra AC Wallbox
ต.ตรวจบ้าน ได้มีโอกาสไปตรวจบ้านที่โครงการเศรษฐสิริ บางนา - กม.10 โดยโครงการนี้เขาจะติดตั้ง EV Charger มาให้ทุกยูนิต ซึ่งมีความน่าสนใจ เลยหาข้อมูลเกี่ยวกับตัวเครื่องชาร์ทเจ้านี้มาฝากผู้อ่านทุกท่านและได้สรุปดังนี้
1. สามารถควบคุมผ่านแอปพลิเคชัน ChargerSync สามารถดูสถานะการชาร์จ ควบคุมการเปิด-ปิดและกำหนดเวลาได้จากระยะไกล
2. รองรับการเชื่อมต่อหลายรูปแบบ WIFI, Ethernet RJ45, Bluetooth และรองรับ 4G
3. ระบบการจัดการพลังงาน มีมิเตอร์ในตัว สามารถควบคุมกระแสและแรงดันเกินขณะชาร์จ และมีระบบตัดไฟอัตโนมัติเมื่อเกิดไฟรั่ว
4. ยี่ห้อ ABB Terra AC ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยระดับสากล เชี่ยวชาญทางด้านไฟฟ้าอุตสาหกรรมและพลังงาน
5. ดีไซน์ตัวเครื่องมีความเรียบทันสมัย ขนาดกะทัดรัด ใช้พื้นที่น้อยเหมาะกับการติดตั้งในบ้าน
6. สามารถรองรับรถได้ทุกรุ่น ใช้หัวชาร์จ Type 2 ซึ่งเป็นมาตรฐานสากลในยุโรปและไทย สามารถรองรับรถยนต์ไฟฟ้าทุกชนิด